Developmental Leadership Model: บทบาทผู้นำเชิงพัฒนา
แนวคิดโดย: ดร.นิติ ยอดดำเนิน
แนวคิดโดย: ดร.นิติ ยอดดำเนิน
ในยุคที่การทำงานและการพัฒนาองค์กรต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ผู้นำไม่อาจพึ่งพาเพียงการสั่งการหรือควบคุมจากเบื้องบนได้อีกต่อไป หากแต่ต้องทำหน้าที่ “ผู้นำเชิงพัฒนา” (Developmental Leader) ที่เข้าใจคน เห็นคุณค่าในศักยภาพของผู้ตาม และส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้และเติบโตอย่างยั่งยืน
แนวคิด Developmental Leadership Model สะท้อนบทบาทของผู้นำในสามมิติหลักที่สัมพันธ์กัน ได้แก่
เข้าใจ (Understanding) – ผู้นำที่ดีเริ่มต้นจากการฟังอย่างตั้งใจ เข้าใจความคิด ความรู้สึก และแรงจูงใจของผู้ตาม ไม่ด่วนตัดสิน แต่พยายามมองเห็นศักยภาพและบริบทของแต่ละคนอย่างแท้จริง ความเข้าใจนี้เป็นรากฐานของความไว้วางใจ (Trust) และเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์เชิงบวกภายในทีม
สะท้อน (Reflection) – ผู้นำที่มีความสามารถในการ “สะท้อน” ไม่ได้หมายถึงการวิพากษ์วิจารณ์ แต่คือการช่วยให้ผู้ตามมองเห็นมุมมองใหม่ของตนเอง ผ่านคำถาม การชี้แนะ หรือการสะท้อนเชิงบวก เพื่อให้เกิดการเรียนรู้จากประสบการณ์จริง (Reflective Learning)
กำกับติดตาม (Guidance & Follow-up) – ผู้นำเชิงพัฒนาไม่เพียงให้คำแนะนำ แต่ยังติดตามผล สนับสนุน และให้ข้อเสนอแนะอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้ตามนำสิ่งที่เรียนรู้ไปปรับใช้และพัฒนาได้จริง ผู้นำในมิตินี้ต้องมีความรับผิดชอบ มีระบบติดตาม และให้กำลังใจในกระบวนการเปลี่ยนแปลง
สะท้อน (Reflection) – ผู้นำที่มีความสามารถในการ “สะท้อน” ไม่ได้หมายถึงการวิพากษ์วิจารณ์ แต่คือการช่วยให้ผู้ตามมองเห็นมุมมองใหม่ของตนเอง ผ่านคำถาม การชี้แนะ หรือการสะท้อนเชิงบวก เพื่อให้เกิดการเรียนรู้จากประสบการณ์จริง (Reflective Learning)
กำกับติดตาม (Guidance & Follow-up) – ผู้นำเชิงพัฒนาไม่เพียงให้คำแนะนำ แต่ยังติดตามผล สนับสนุน และให้ข้อเสนอแนะอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้ตามนำสิ่งที่เรียนรู้ไปปรับใช้และพัฒนาได้จริง ผู้นำในมิตินี้ต้องมีความรับผิดชอบ มีระบบติดตาม และให้กำลังใจในกระบวนการเปลี่ยนแปลง
เมื่อทั้งสามบทบาทนี้มาบรรจบกัน จะก่อให้เกิด “พื้นที่แห่งการเรียนรู้ร่วมกัน” (Learning Space) ซึ่งเป็นหัวใจของการพัฒนาในองค์กร ผู้นำที่สามารถผสมผสานบทบาทเหล่านี้ได้อย่างสมดุล จะไม่เพียงเป็นผู้ควบคุม แต่จะกลายเป็น “ผู้นำการเติบโต” ที่สร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้และความรับผิดชอบร่วมกันในทีม
ในพื้นที่ที่บทบาทต่าง ๆ ซ้อนทับกัน ยังสะท้อนบทบาทย่อยที่สำคัญ ได้แก่
Empathic Communication (การสื่อสารเชิงเข้าใจ): เกิดจากการผสมผสานระหว่าง “เข้าใจ” และ “สะท้อน” ผู้นำใช้การสื่อสารที่เปิดใจ รับฟัง และสะท้อนอย่างมีเจตนาดี เพื่อสร้างความไว้วางใจและความเข้าใจร่วมกัน
Coaching & Feedback (การโค้ชและให้ข้อเสนอแนะ): เป็นจุดร่วมระหว่าง “สะท้อน” และ “กำกับติดตาม” ผู้นำช่วยให้ผู้ตามค้นพบคำตอบด้วยตนเอง พร้อมให้คำแนะนำและฟีดแบ็กอย่างต่อเนื่อง
Supportive Supervision (การกำกับดูแลเชิงสนับสนุน): เป็นการผสมระหว่าง “เข้าใจ” และ “กำกับติดตาม” ผู้นำวางแนวทางอย่างมีเป้าหมาย แต่ยังคงความเห็นอกเห็นใจ สนับสนุนให้ทีมบรรลุผลด้วยตนเอง
และใน จุดศูนย์กลาง ที่ทั้งสามมิติซ้อนทับกัน คือ Developmental Leadership ซึ่งหมายถึงภาวะผู้นำที่สามารถสร้างสมดุลระหว่าง “ความเข้าใจในคน” “การสะท้อนเพื่อการเรียนรู้” และ “การติดตามเพื่อผลลัพธ์” ผู้นำในลักษณะนี้จึงไม่เพียงสร้างผลงาน แต่ยังสร้าง “คน” และ “วัฒนธรรมแห่งการพัฒนา” ในองค์กร
Coaching & Feedback (การโค้ชและให้ข้อเสนอแนะ): เป็นจุดร่วมระหว่าง “สะท้อน” และ “กำกับติดตาม” ผู้นำช่วยให้ผู้ตามค้นพบคำตอบด้วยตนเอง พร้อมให้คำแนะนำและฟีดแบ็กอย่างต่อเนื่อง
Supportive Supervision (การกำกับดูแลเชิงสนับสนุน): เป็นการผสมระหว่าง “เข้าใจ” และ “กำกับติดตาม” ผู้นำวางแนวทางอย่างมีเป้าหมาย แต่ยังคงความเห็นอกเห็นใจ สนับสนุนให้ทีมบรรลุผลด้วยตนเอง
และใน จุดศูนย์กลาง ที่ทั้งสามมิติซ้อนทับกัน คือ Developmental Leadership ซึ่งหมายถึงภาวะผู้นำที่สามารถสร้างสมดุลระหว่าง “ความเข้าใจในคน” “การสะท้อนเพื่อการเรียนรู้” และ “การติดตามเพื่อผลลัพธ์” ผู้นำในลักษณะนี้จึงไม่เพียงสร้างผลงาน แต่ยังสร้าง “คน” และ “วัฒนธรรมแห่งการพัฒนา” ในองค์กร
แนวคิดนี้เน้นว่าการเป็นผู้นำเชิงพัฒนา เกิดจาก “เจตนาในการส่งเสริมผู้อื่นให้เติบโต” เมื่อผู้นำเข้าใจและใช้ทั้งสามบทบาทนี้อย่างเหมาะสม องค์กรจะไม่เพียงมีประสิทธิภาพ (Effectiveness) แต่ยังมีพลังแห่งการเรียนรู้ (Learning Power) ที่ขับเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืน
#ผู้นำ
#ผู้นำ
